‘'มีงูอยู่ในรองเท้าบู๊ทฉัน!'’ การเดินทางของคอลเลคชั่นสุดพิเศษจาก CARNIVAL® และ Toy Story ดำเนินมาถึงบทที่ 3 “Dynamic Duo” เรื่องราวของนายอำเภอตัวป่วน ‘Woody’ และเสืออวกาศจอมกวน ‘Buzz Lightyear’ ของเล่นตัวเอกดูโอ้ที่ทุกคนรอคอย วันนี้เราจะพาทุกคนไปรู้จักคู่หูคู่ใจนี้กันให้มากขึ้น เตรียมตัวให้พร้อมก่อนพุ่งทะยาน “สู่ความเวิ้งว้าง .. อันไกลโพ้น!”

 

Woody จอมเผด็จการ

 

‘'มีคนวางยาพิษในบ่อนํ้า!!'’ รู้หรือไม่ว่า? Woody นายอำเภอขวัญใจมหาชน ผู้นำเหล่าของเล่น พระเอกของเรา เคยถูกเขียนให้เป็นตัวร้ายมาก่อน! ในบทดราฟต์แรกของ Toy Story (1995) เป็นเวอร์ชั่นย่อที่ทดลองฉายให้ทีมบริหารของ Disney ที่รู้จักกันในชื่อ ‘The Black Friday Reel’ 

ในเวอร์ชั่นทดลองฉาย Woody นั้นเป็นผู้นำของเหล่าของเล่นในบทบาทนายอำเภอบ้าอำนาจ ขี้อิจฉา ปากร้าย เป็นจอมบงการที่ทำให้ชีวิตของเหล่าของเล่นในห้อง Andy ไม่มีความสุข และเมื่อ Buzz Lightyear ของเล่นหน้าใหม่มาขอจับมือเขา Woody ในเวอร์ชั่นนี้กลับโยน Buzz ลงหน้าต่าง! อีกทั้งยังดุด่าเหล่าของเล่นทีเหลือที่เห็นต่างจนพวกพ้องทนไม่ได้และรวมพลังกันโยน Woody ลงหน้าต่างตามไป

หลังจากได้ชมเวอร์ชั่นทดลองฉายทางผู้บริหาร Disney เกลียดตัวละครและเนื้อเรื่องเวอร์ชั่นนี้มากจน สั่งพับโปรเจค Toy Story ทันทีและเกือบจะถูกยกเลิก! จนกระทั่ง John Lasseter ขอโอกาส 2 อาทิตย์ในการแก้ไข และในที่สุดนายอำเภอ Woody ก็กลายมาเป็นคาวบอยเจ้าเสน่ห์ที่เรารู้จักกันทุกวันนี้

Carnival Fun Fact : ชื่อของ Woody ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก Woody Strode นักแสดงหนังคาวบอยแห่งยุค 60-70s  และยังเป็นนักกีฬาผิวดำคนแรกใน National Football League ของยุคหลังสงคราม โดยภายหลังผู้กำกับ Toy Story 3 (2010) ก็เผยว่าชื่อเต็มของหุ่นนายอำเภอคือ Woody Pride 

 

Cowboy vs Space Ranger ยุคสมัยเเห่งการเปลี่ยนผ่าน



 

 เพราะของเล่นยอดนิยมเป็นเหมือนกับสัญลักษณ์ของ “ฮีโร่” ในยุคสมัยนั้นๆ เช่น คาวบอย เคยเป็นสัญลักษณ์ของความเป็น “ฮีโร่” แบบอเมริกันมาอย่างยาวนานหลายร้อยปี โดยเฉพาะเมื่อการมาถึงของเทคโนโลยี วิทยุ และ ทีวี เด็กๆจึงสามารถเข้าถึงภาพฝันของการฮีโร่แบบเวสเทิร์นได้อย่างเต็มที่ ทำให้ยุค 40-50 เป็นยุคทองสำหรับของเล่น “คาวบอย” ก่อนที่จะถูกแทนที่ด้วยยุคของเล่นหุ่นนักบินอวกาศ 

ใน Toy Story 2 (1999) เราได้รู้ที่มาว่า ​Woody นายอำเภอหนุ่มของเราอยู่ในไลน์ของเล่นจากทีวีโชว์หุ่นเชิดเรื่อง ‘’Woody’s Roundup’’ โดยของเล่นแบบเดียวกับ Woody เป็นตัวนำแสดงร่วมกับ Jessie คาวเกิร์ลสุดแสบ Bullseye ม้าน้อยคู่ใจ และ Stinky Pete นักขุดเหมือง

รายการ ‘’Woody’s Roundup’’ นี้ออกอากาศระหว่างปี 1949-1957 ซึ่งถูกตัดจบหลังจากทื่สหภาพโซเวียตส่ง Sputnik 1 ดาวเทียมดวงแรกของโลกขึ้นอวกาศ ในวันที่ 4 ตุลาคม 1957 เป็นเหมือนชนวนของการเเข่งขันทางอวกาศที่ต่อยอดกลายเป็นสงครามเย็นระหว่าง สหรัฐอเมริกา และสหภาพโซเวียตในเวลาต่อมา

การเปลี่ยนผ่านของความนิยมในประเภทของเล่นหลังจากการมาถึงของเหล่าหุ่นนักบินอวกาศแบบเดียวกับ Buzz Lightyear ในยุค 60 เด็กๆก็หันไปเล่นหุ่นแอคชั่นอวกาศไซไฟกันหมด ทำให้ของเล่นคาวบอย “ตกยุค” ขายไม่ออก จึงเป็นชนวนให้ Stinky Pete กลายเป็นตัวร้ายนั่นเอง

  ไดนามิคการเปลี่ยนผ่านและการถูกแทนที่นี้เป็นแบบเดียวกับการมาถึงของ Buzz ในห้องของ Andy ที่ทำให้ Woody หุ่นคาวบอยเจ้าเก่าถูกละเลยไป แต่ความงดงามของเรื่องราวใน Toy Story คือการก้าวข้ามความแตกต่าง และเรียนรู้ถึงมิตรภาพที่ทำให้ความสัมพันธ์แสนพิเศษของคู่หู Buzz และ Woody อยู่ในใจของผู้ชมมาถึงทุกวันนี้

 

 กว่าจะมาเป็น Buzz Lightyear

 

 

“สู่ความเวิ้งว้างอันไกลโพ้น!” รู้หรือไม่? ว่ากว่าจะมาเป็นสเปซเรนเจอร์สุดเท่ที่เราคุ้นเคยกัน Buzz Lightyear เกือบได้ชื่อว่า Lunar Larry มาก่อน! นอกจากนั้นยังมีชื่อต่างๆอีกหลากหลายก่อนจะจบในชื่อที่เข้ารอบไปฉายในเวอร์ชั่น Animation Test ในปี 1993 นั่นก็คือ ‘Tempus’ ในชุดหุ่นอวกาศสีแดง

          ดีไซน์ของ Buzz นั้นเปลี่ยนแปลงมาหลากหลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็น นักรบโรมัน หุ่นรบอวกาศ หุ่นเหล็กเรโทร จนมาจบที่หุ่นนักบินอวกาศ และชื่อของ Buzz ก็ยังมาจาก นักบินอวกาศในภารกิจ Apollo 11 อันเลืองชื่อ Buzz Aldrin มนุษย์คนที่สองในประวัติศาสตร์ที่เหยียบพื้นผิวดวงจันทร์  

ในที่สุดสีชุดของ Buzz ก็เปลี่ยนจากสีแดงมาเป็นคู่สีที่เราคุ้นเคยกัน นั่นก็คือสีเขียว Lime Green สีโปรดของผู้กำกับ John Lasseter และสีม่วง Violet สีโปรดของ Nancy ภรรยาของเขานั่นเอง

Carnival Fun Fact : “To Infinity and beyond” นอกจากจะเป็นคำสุดฮิตติดปากของ Buzz แล้ว ยังเป็นชื่อหนังสือที่เขียนโดยศาสตราจารย์ Eli Maor หนังสือว่าด้วยเรื่องคอนเซปของ ‘อินฟินิตี้’ หรือความเป็นอนันต์ผ่านเรื่องราวและประวัติศาสตร์ต่างๆอย่าง สถาปัตยกรรม เรขาคณิต ศิลปะ และ ดาราศาสตร์ เป็นต้น

 

 

Woody หุ่นเชิดสุดหลอน

 

 

 ยังจำพวกหุ่นเชิด Benson ชวนสยองใน Toy Story 4 (2019) กันได้ไหม? ในดราฟต์แรกของ Toy Story (1995) สมัยที่ Woody ถูกวางบทไว้เป็นตัวร้ายเขาเคยถูกดีไซน์เป็นหุ่น ‘Ventriloquist’ หรือหุ่นดัมมี่ ไว้สำหรับการแสดงหุ่นเชิดมือแบบเดียวกับเหล่าหุ่นเชิด Benson เลย

หากดราฟต์แรกของ Woody เป็นจริงเราคงได้เห็นความหลอนของดีไซน์เมื่อผสานกับนิสัยแย่ๆ เราอาจจะไม่ได้เห็น Toy Story กลายเป็นตำนานแบบทุกวันนี้ก็เป็นได้ แต่โชคยังดีที่ได้ไอเดียของนักออกแบบอย่าง Bud Luckey ที่เปลี่ยนให้ Woody เป็นตุ๊กตาชักรอก (Pull String Doll) แทน จนกลายมาเป็นนายอำเภอสุดหล่อแบบที่เราคุ้นเคยกันทุกวันนี้ 

 

 

ถ้าหาก “สู่ความเวิ้งวางอันไกลโพ้น!” เป็นเสียงเดียวกันกับ Mike Wazowski ปีศาจเขียวตาเดียวจากแฟรนไชส์ Monster Inc. ล่ะ?  

Billy Crystal ดาราตลกชื่อดังของอเมริกาผู้มีผลงานบันเทิงมากมายเเละเป็น Host ของ Saturday Night Live รายการตลกชั้นนำอยู่หลายครั้ง แต่สิ่งนึงที่ผิดพลาดในเส้นทางอาชีพของเขาก็คือการปฏิเสธพากย์บท ‘Buzz Lightyear’ ใน Toy Story (1995) สเปซ เรนเจอร์ ผู้ที่จะเปลี่ยนวงการอนิเมชั่นไปตลอดการ 

 ทางทีมงานชื่นชอบ Billy Crystal มากจึงลองตัดเสียงเขาจากหนังมาวางคู่กับภาพของ Buzz ใน Billy Crystal's Test Screen for Toy Story ซึ่งผลที่ได้ออกมาฮาใช้ได้เลยทีเดียว 

หลังที่เขาได้รับชม Toy Story (1995) Billy รู้ตัวทันทีว่าเขาตัดสินใจพลาดมหันต์ จึงโทรไปหาทีมงาน Pixar และขอร่วมงานด้วยทันที! จนได้เป็นเจ้าของเสียงของ Mike Wazowski ในเรื่อง Monster Inc. (2001) 

เมื่อมองย้อนกลับไปคงเป็นเรื่องดีแล้วเพราะสำหรับเสียงของ Buzz Lightyear คงไม่มีใครแทน Tim Allen ได้ ส่วนเจ้า Mike Wazowski ก็คงนึกเสียงใครไม่ออกนอกจาก Billy Crystal แต่คงจะสนุกดีเหมือนกันหากในจักรวาลคู่ขนานเราได้เห็น Buzz Lightyear เป็นสายฮา

Carnival Fun Fact : นอกจาก Billy Crystal แล้วทางทีมเคยคิดจะให้บทนี้กับดาราตลกอีกหลายคนอย่าง Bill Murray, Jim Carrey และ Adam Sandler 



Woody คาวบอยสองพี่น้อง

 

 

 ว่าด้วยเรื่องเสียงพากย์ของ Toy Story คงจะพลาดมหันต์หากไม่พูดถึงความไอคอนิกของ Tom Hanks นักแสดงระดับตำนานในฐานะคาวบอยหนุ่ม Woody

ความละเอียดอ่อนและลุ่มลึกในเสียงของ Tom Hanks สามารถแสดงอารมณ์อันซับซ้อนของ Woody ออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบ แต่รู้หรือไม่ว่า? ไม่ได้มีเพียงแค่ Tom Hanks ที่พากย์เสียงให้กับ Woody 

เพราะทุกบทบาทนอกจากในหนังเช่น Woody ในวิดิโอเกมส์ หนังสั้น (ยกเว้น Toy Story Toons) ถูกพากย์โดย Jim Hanks น้องชายแท้ๆของ Tom Hanks นั่นเอง

 

 

Buzz Lightyear เคยเกือบเป็นหุ่นสังกะสี

 



รู้หรือไม่ว่าบทบาทของ Buzz Lightyear ใน Toy Story (1995) เคยเกือบได้เป็นของเจ้าหุ่น ‘Tintoy’ มาก่อน ด้วยความที่พลอตเรื่องต้องการให้มี ‘ของเล่นใหม่’ที่เข้ามาแทนที่ Woody ในฐานะตำแหน่งตุ๊กตาตัวโปรดของ Andy 

แล้วหุ่น Tintoy คืออะไร? ย้อนกลับไปเมื่อปี 1988 ทางทีมงาน Pixar ได้สร้างอเมชั่นความยาว 5 นาที ในชื่อ “Tin Toy” ซึ่งเป็นเรื่องราวของเจ้าหุ่นสังกะสีที่ต้องเผชิญหน้ากับเด็กทารกยักษ์ เเละต้องคอยหลบหนีจากการเล่นเเรง ๆ ของเจ้าเด็กจอมซนอยู่เสมอ เเละด้วยไอเดียสุดเจ๋งในการนำเสนอ ความตื่นเต้นของโลกไซส์จิ๋วในมุมมองของเหล่าของเล่น นั้นทำให้ Disney ได้จุดประกายชวนให้ทีม Pixar เอาไอเดียนี้ไปต่อยอดเพื่อทำหนังใหญ่ เเละหนังเรื่องนั้นมีชื่อว่า“Toy Story”

การต่อยอดจากไอเดียหนังสั้นเป็นเรื่องที่ดีจริง แต่ท้ายสุดแล้วทางทีม Pixar ก็ได้ข้อสรุปกันว่าคงไม่มีใครอยากเล่นหุ่นสังกะสีแบบ Tin Toy อีกแล้ว จึงเปลี่ยนดีไซน์ให้เป็นหุ่นแอคชั่นอวกาศที่อินสไปร์มาจากหุ่นรบ GI. Joe ในยุค 60 แทนนั่นเอง

 

Woody ได้ตัวร้ายสอนให้เติบโต


 

อีกสิ่งนึงที่ทำให้แฟรนไชส์ Toy Story กลายเป็นตำนานก็คือความลุ่มลึกของบท โดยเฉพาะตัวละครที่มีมิติ ทางทีมเขียนบทได้วางให้ตัวละครของ Woody มีความซับซ้อนมากกว่าตัวละครอนิเมชั่นทั่วไป ด้วยความที่เขาเคยถูกเขียนขึ้นมาเป็น “ตัวร้าย” ตามแบบฉบับของอนิเมชั่นทั่วไปก่อนจะพัฒนามาให้มีความเป็น “มนุษย์” มากขึ้น ลุ่มลึกด้วยปมความคิดและข้อด้อยต่างๆ และไม่ใช่ตัวละคร “พระเอก” ที่สมบูรณ์แบบไม่ด่างพร้อย

ตัวร้ายหลักของ Toy Story ทุกภาคก็มีมิติและไม่ตื้นเขินเช่นกัน ทุกตัวละครมีเหตุผลที่เป็น “ตัวร้าย” ในเรื่องราวนี้ และเป็นบทเรียนให้ Woody เติบโตขึ้นและก้าวข้ามปัญหาที่เขาเผชิญอยู่ในภาคนั้นๆ

           Toy Story (1995) : ปัญหาหลักที่ Woody ต้องเผชิญก็คือการถูก “แทนที่” โดยของเล่นใหม่ Buzz Lightyear แต่หลังจากการผจญภัยในบ้าน Sid Phillips ก็ทำให้ทั้งสองกลายเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันได้ 

   Toy Story 2 (1999) : เรื่องราวการถูกทิ้งของ Jessie ทำให้ Woody ปลงใจยอมไปอยู่ในพิพิธภัณฑ์ที่ญี่ปุ่น แต่เมื่อรับรู้แผนร้ายและเรื่องราวของ Stinky Pete ทำให้ Woody ได้สติ และก้าวข้ามความกลัวในการเติบโตของ Andy ได้

 Toy Story 3 (2010) : เมื่อ Andy ถึงวัยย้ายไปเรียนวิทยาลัย Woody ยังยึดติดกับความอยากที่จะอยู่กับ Andy แม้ในห้องใต้หลังคาก็ยังดี แต่หลังจากการผจญภัยที่ Sunny Side และการเผชิญหน้ากับเจ้าหมี Lotso ทำให้ Woody เรียนรู้ที่จะปล่อยวางจาก Andy และเข้าใจความสำคัญของการจากลา และมีชีวิตเพื่อเด็กคนต่อไปนั่นก็คือ Bonnie 

Toy Story 4 (2019)​ : หลังจากที่มอบกล่องเสียงให้กับ Gabby Gabby และช่วยให้เธอได้เจอกับเด็กของเธอในงานคานิวัล ทำให้ Woody ค้นพบเป้าหมายชีวิตใหม่ในการช่วยเหลือเหล่า ‘ของเล่นหลงทาง’ ได้มีโอกาสให้พบกับความรักของเด็กๆอีกครั้ง

ตลอดการเดินทางมากกว่า 20 ปีตลอด 4 ภาคของ Toy Story เราได้เห็นหุ่นนายอำเภอหนุ่มเจ้าเสน่ห์ Woody เติบโตเเละพัฒนาก้าวข้ามความไม่สมบูรณ์แบบ และค้นหาเส้นทางที่เหมาะกับตัวเองไม่ต่างอะไรกับผู้ชมอย่างพวกเรา



Buzz Lightyear สู่สถานีอวกาศอันไกลโพ้น! 


 

ไม่ใช่แค่ Woody ที่ได้เป็นพระเอก! ในปี 2020 เราได้เห็น Buzz Lightyear ในเวอร์ชั่น “คน” ที่มีทรงผมเป็นครั้งแรก ในอนิเมชั่นเรื่อง Lightyear ที่เป็นหนังเดี่ยวแนว Action / Scifi ตลุยอวกาศที่เผยเรื่องราวของเสืออวกาศให้เรารับชมกันแบบเต็มๆ ในคราวนี้สเปซเรนเจอร์หนุ่มของเรายังได้ Chris Evan นักแสดงแห่งยุคขึ้นรู้จักกันในบท Captain America มาพากย์เสียงอีกด้วย โดยหนังขึ้นชื่อเรื่องดีเทลความสมจริงที่แม้กระทั่งยานอวกาศยังได้อินสไปร์งานดีไซน์มาจากจรวดของ NASA 

รู้หรือไม่ว่า? เจ้าหุ่น Buzz Lightyear ของเราเคยไปเยือนอวกาศมาแล้วจริงๆ! โดยขึ้นไปพร้อมกับกระสวยอวกาศของ NASA พร้อมกับทีมในภารกิจ STS-124 ในปี และหลังจากการผจญภัยในสถานีอวกาศอยู่ 15 เดือนก็เดินทางกลับโลกในปี 2009 มาเล่าเรื่องให้ Hamm, Rex และพวกของเล่นฟังในวิดิโอสั้น ‘Buzz Lightyear's Space Station Mission Logs’

Carnival Fun Fact : ผู้ที่อินสไปร์ Buzz Lightyear อย่าง Buzz Aldrin นักบินอวกาศคนที่สองผู้เหยียบดวงจันทร์ในภารกิจ Apollo 11 ในตำนานได้มาต้อนรับหุ่นอวกาศ Buzz Lightyear กลับบ้านด้วย! 



 สองสหายซ่าตลุยงาน OSCAR 


 

  นับตั้งแต่วันแรกที่เข้าฉายในปี 1995 แฟรนไชส์ Toy Story ก็กลายเป็นปรากฏการณ์แห่งยุค ที่ขึ้นหิ้งด้วยความสำเร็จในหลากหลายแขนง ไม่ว่าจะเป็นการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีลํ้ายุคให้กลายเป็น “จุดเริ่มต้น” ของภาพยนตร์อนิเมชั่นที่ใช้ CGI สร้างทั้งหมด พลอตเรื่องลํ้ายุคที่เล่าเรื่องราวอันซับซ้อนแต่เรียบง่ายที่พาตัวละครที่มีมิติมาโลดแล่นในรูปแบบอนิเมชั่น

แต่ปัจจัยสู่ความสำเร็จที่ขาดไม่ได้เลย ‘เคมี’ ระหว่างตัวละคร Woody และ Buzz คู่หูคู่ซ่าที่ครองใจแฟนๆทั่วโลกได้มาเกือบ 30 ปี รู้หรือไม่ว่า? นอกจากรางวัลมากมายที่แฟรนไชส์ Toy Story ได้รับแล้ว สองคู่หู Buzz & Woody ยังเคยไปงานประกาศรางวัล Oscar ถึง 3 ครั้งด้วยกัน!

           ในงานประกาศผลรางวัล Oscar ครั้งที่ 68 หลังจากที่ผู้กำกับ John Lasseter ได้รับรางวัล ‘Special Achievement Award’ เขาได้ “ลืม” ทิ้งคู่หูของเล่น Woody และ Buzz ไว้ที่โพเดียมประกาศรางวัล ก่อนที่ทั้งคู่จะมีชีวิตขึ้นมาสร้างซีนแก็กสุดป่วนสร้างสีสันให้เราหัวเราะกัน 

ทั้งคู่มีโอกาสได้ประกาศรางวัลอย่างเป็นทางการในงาน Oscar ครั้งที่ 72 เปิดตัวด้วย Woody ตักเตือน Buzz เรื่องการแต่งตัวให้เป็นทางการ และมี Mr.&Mrs. Potato Head มาแจมในหมู่คนดูด้วย แต่เมื่อถึงเวลาประกาศทั้งคู่กลับลืมบัตรชื่อผู้ชนะแต่โชคยังดีที่คาวเกิร์ล Jessie ขีม้าเร็วมาช่วยทัน! และแล้วผู้ชนะสาขาอนิเมชั่นยอดเยี่ยมคือ The Old Man and the Sea โดย Aleksandr Petrov

เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองครบรอบ 20 ปี ของ Toy Story (1995) ในงานประกาศผลรางวัล Oscar ครั้งที่ 88 คู่หูนายอำเภอหนุ่มและเสืออวกาศจึงได้โอกาสมาประกาศรางวัลอีกครั้ง โดยทั้งคู่รำลึกถึงช่วงเวลาที่ทั้งคู่เคยเป็นก่อนจะพบเจอกันและเติบโต “ถ้าหากนายไม่ได้ฉันช่วยก็คงจะยังเป็นหุ่นรบบัซไลท์เยียร์ที่ไม่รู้ตัวว่าเป็นของเล่น” และ “ถ้าไม่ได้ฉันนายก็คงหลงระเริงเป็นนายอำเภอในทีวีโชว์” เป็นการหยอกล้อที่ชวนให้เราคิดถึงช่วงเวลาที่ทั้งสองคนต่างช่วยเหลือกันในหนังภาคแรกและภาคสอง หลังจากนั้นทั้งคู่ก็ประกาศรางวัลผู้ชนะสาขาอนิเมชั่นยอดเยี่ยมให้กับ Inside Out 

ความสัมพันธ์ของ Buzz และ Woody คงจะเป็นคู่หูที่เหนียวแน่นและน่าจดจำที่สุดในประวัติศาสตร์ภาพยนตร์ เคมี ของผู้พากย์อย่าง Tom Hanks และ Tim Allen นั้นมีเสน่ห์และสะท้อนออกมาในตัวละครอนิเมชั่นอย่างสมบูรณ์แบบ โดยตัวของ Tim เองเคยให้สัมภาษณ์ในรายการ The Kelly Clarkson Show ไว้ว่าเขาและ Tom นั้นแม้จะแตกต่างกันแต่ก็กลายเป็นเพื่อนที่สนิทกันมากขึ้นเรื่อยๆ คงจะเหมือนกับความสัมพันธ์ของ Buzz และ Woody นั่นที่แม้จะแตกต่างแต่ก็ตัดไม่ขาดแบบที่ Woody เคยกล่าวไว้ในตอนจบของ Toy Story 2 ว่า  “Besides, when it all ends, I'll have old Buzz Lightyear to keep me company for infinity and beyond”

เป็นอย่างไรกันบ้างกับเรื่องราวน่ารู้ของสองคู่หู Buzz และ Woody หวังว่าจะทำให้เพื่อนๆหายคิดถึงกันไม่มากก็น้อย เพื่อนๆคนไหนที่ยังอินอยู่อย่าลืมไปติด ติดตามคอลเลคชั่น CARNIVAL® & Disney/Pixar's Toy Story Collection Chapter 3 “Dynamic Duo” กันได้ในวันศุกร์ที่ 23 มิถุนายนนี้! 

 

#ToyStoryCollectionbyCarnival #ToyStory #DisneyPixarToyStoryCollection #Chapter3 #DynamicDuo #carnivalbkk




By Carnivalbkk
363 view(s)
1 year ago